สร้างสระว่ายน้ำต้องใช้ระบบอะไร?
การสร้างสระว่ายน้ำของใครหลายคนอาจคำนึงถึงแต่ความสวยงามเป็นหลัก
สำหรับคนทั่วไปการสร้างสระว่ายน้ำมักจะมองแค่ดีไซน์ที่สวยงามถูกใจเพียงเท่านั้น
แต่ความจริงแล้วปัจจัยหลักลองลงมาจากความสวยงามคือ
ระบบน้ำของสระว่ายน้ำนั่นเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดก่อนการตัดสินใจจะสร้างสระว่ายน้ำ
ระบบน้ำของสระว่ายน้ำนั่นเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดก่อนการตัดสินใจจะสร้างสระว่ายน้ำ
หากระบบน้ำไม่ดีน้ำในสระก็พังไปด้วยทำให้สระว่ายน้ำของคุณไม่น่าเล่นและเกิดปัญหาตามมาในอนาคตได้นั่นเองค่ะ
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าสระว่ายน้ำมีระบบน้ำแบบไหนบ้าง
และระบบการทำงานนั้นเป็นอย่างไร มีวิธีเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสม
และระบบการทำงานนั้นเป็นอย่างไร มีวิธีเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสม
ซึ่งหลัก ๆ มีอยู่ 2 รูปแบบ ที่นิยมใช้ที่สุด
1. ระบบ Over Flow (ระบบน้ำล้น)
เป็นระบบที่นิยมที่สุดในการสร้างสระว่ายน้ำคือ ระบบ Over Flow (ระบบน้ำล้น)
โดยการทำให้น้ำในสระล้นออกมายังรางน้ำล้นข้างขอบสระ
แล้วนำน้ำที่ล้นออกมาไปพักไว้ที่ถังพักน้ำ (Surge Tank)
ก่อนจะปั๊มน้ำไปผ่านเครื่องกรองน้ำในห้องเครื่อง ทำให้ผิวสระว่ายน้ำใช้ระบบนี้ดูตึงสวย เพราะอยู่ระดับเดียวกันกับขอบสระ
แล้วนำน้ำที่ล้นออกมาไปพักไว้ที่ถังพักน้ำ (Surge Tank)
ก่อนจะปั๊มน้ำไปผ่านเครื่องกรองน้ำในห้องเครื่อง ทำให้ผิวสระว่ายน้ำใช้ระบบนี้ดูตึงสวย เพราะอยู่ระดับเดียวกันกับขอบสระ
แต่จะติดตรงที่จะมองเห็นรางน้ำล้นที่ดูคล้ายกับท่อระบายน้ำสระนั่นเอง แต่ปัจจุบันการดีไซน์และตกแต่งที่ทันสมัย
ทำให้สามารถปกปิดและมองข้ามจุดนี้ไปได้
2. ระบบ Skimmer
ระบบ Skimmer นั้นคือวิธีการนำน้ำไปบำบัด
โดยผ่านช่องด้านข้างของผนังสระ ทำให้ผิวน้ำอยู่ระดับต่ำกว่าพื้นรอบสระประมาณ 4 - 10 เซนติเมตร
โดยผ่านช่องด้านข้างของผนังสระ ทำให้ผิวน้ำอยู่ระดับต่ำกว่าพื้นรอบสระประมาณ 4 - 10 เซนติเมตร
จะดูแปลกและไม่หรูหราเท่ากับระบบน้ำล้น แต่ระบบนี้ไม่ต้องมีถังพักน้ำ (Surge Tank) ทำให้ประหยัดน้ำ
และราคาการก่อสร้างของระบบ Skimmer ก็จะถูกกว่าระบบ Over Flow นอกจากนี้
ในปัจจุบันระบบนี้ยังถูกพัฒนาทำให้ใช้งานได้ง่ายมากขึ้น โดยมีรูปแบบเป็นเครื่องกรองสำเร็จรูป ไม่ต้องเดินท่อ
เพียงแค่มีสระและติดเครื่องไว้ที่ขอบสระและสามารถทำงานได้เลย ซึ่งระบบนี้จะเหมาะกับสระที่ขนาดไม่ใหญ่มาก
ไม่เกิน 12 x 6 เมตร ปัจจุบันระบบนี้ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นเพราะง่ายต่อและประหยัดเวลาในการก่อสร้าง
ซึ่งทั้งสองระบบนี้ใช้งานได้ดีทั้งคู่แต่อยู่ที่การเลือกสิ่งที่ตอบโจทย์ให้กับสระว่ายน้ำของคุณนั่นเองค่ะ
ไม่เกิน 12 x 6 เมตร ปัจจุบันระบบนี้ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นเพราะง่ายต่อและประหยัดเวลาในการก่อสร้าง
ซึ่งทั้งสองระบบนี้ใช้งานได้ดีทั้งคู่แต่อยู่ที่การเลือกสิ่งที่ตอบโจทย์ให้กับสระว่ายน้ำของคุณนั่นเองค่ะ
เรียกได้ว่าทำให้การสร้างสระว่ายน้ำดูง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก ไม่ได้ยุ่งยากและซับซ้อนอย่างที่หลายคนคิดใช่มั้ยล่ะคะ
หากเราวางระบบดีในอนาคตสระว่ายน้ำก็จะไม่เกิดปัญหาต่าง ๆมารบกวนจิตใจเรานั่นเองค่ะ
สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจว่าจะเลือกวางระบบนัำแบบไหนดีแต่ยังลังเล แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจสร้างสระว่ายน้ำจะดีที่สุดค่ะ เพราะการวางรากฐานที่ดีจะทำให้เกิดปัญหาตามมาน้อยที่สุดนั่นเองค่ะ
สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจว่าจะเลือกวางระบบนัำแบบไหนดีแต่ยังลังเล แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจสร้างสระว่ายน้ำจะดีที่สุดค่ะ เพราะการวางรากฐานที่ดีจะทำให้เกิดปัญหาตามมาน้อยที่สุดนั่นเองค่ะ
